Background



ข่าวประชาสัมพันธ์
การอนุรักษ์พลังงาน รณรงค์ประหยัดไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง
5 มิถุนายน 2563

2225


การอนุรักษ์พลังงาน รณรงค์ประหยัดไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง 

วิธีการอนุรักษ์พลังงาน

1.  ด้านที่อยู่อาศัย

อุณหภูมิเป็นปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์มนุษย์ต้องการอาศัยอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ บ้านเรือนในประเทศแถบหนาวจึงมีการปรับอุณหภูมิในบ้านให้อบอุ่น  ส่วนในประเทศร้อนก็มีการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อให้เย็นสบายการปรับอุณหภูมิตามต้องการนี้จำเป็นต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงเป็นอันมากนอกจากนั้นอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านเช่นตู้เย็นพัดลมวิทยุโทรทัศน์ฯลฯก็อาศัยพลังงานเชื้อเพลิงทั้งสิ้นดังนั้นจึงต้องมีมาตรการในการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในที่อยู่อาศัยโดยสรุปได้ดังนี้

1.1  การออกแบบบ้าน  ให้มีลักษณะโปร่ง มีการถ่ายเทและระบายอากาศได้สะดวกสำหรับทิศของบ้านควรหันหน้าไปทางทิศเหนือ ใต้  เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้แสงแดดเข้าสู่ช่องเปิดของตัวบ้าน วัสดุที่ใช้สร้างบ้านควรเลือกใช้วัสดุที่สามารถช่วยลดการสูญเสียพลังงานเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน  เช่นการใช้ฉนวนกันความร้อนตั้งแต่หลังคาจนถึงผนังการใช้วัสดุอื่นแทนกระจก เพื่อลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็นลง เท่ากับลดการสูญเสียพลังงาน

1.2  การปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มเงาในบริเวณบ้านจะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านและช่วยไม่ให้แสงแดดส่องถึงตัวบ้านในช่วงฤดูร้อนทำให้ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

1.3  การเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า  ควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5  หรือเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดครอบครัว

1.4  การใช้น้ำในที่อยู่อาศัย  ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด  ถือว่าเป็นการประหยัดพลังงานด้วย  เพราะการทำให้น้ำสะอาดต้องผ่านกระบวนการที่ต้องใช้พลังงาน  หลักการการประหยัดน้ำ  เช่น

1.4.1  ใช้หัวก๊อกที่มีตัวลดอัตราการไหลของน้ำให้น้อยลง

1.4.2  ปิดก๊อกน้ำในระหว่างแปรงฟันสระผม หรือโกนหนวด

1.4.3  ใช้ไม้กวาดในการกวาดพื้นแทนการใช้น้ำฉีดเพื่อทำความสะอาด

1.4.4  ล้างรถด้วยน้ำถังและฟองน้ำแทนการใช้สายยางฉีดน้ำ

1.4.5  ใช้น้ำจากการซักล้างหรือถูพื้นเพื่อรดน้ำต้นไม้แทนการใช้น้ำประปา

1.5  การใช้พลังงานในเตาก๊าซอย่างประหยัดทำได้ดังนี้

1.5.1  เลือกใช้ถังก๊าซที่มีเครื่องหมายสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.)

1.5.2  ควรใช้สายยางหรือสายพลาสติกชนิดยาวและมีความยาว1-1.5 เมตร

1.5.3  ตั้งเตาก๊าซให้ห่างถังก๊าซประมาณ1-1.5 เมตร ปิดวาล์วที่หัวเตาและหัวปรับความดันเมื่อเลิกใช้

1.5.4  เลือกขนาดของหม้อหรือกระทะให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารที่จะปรุง

1.5.5  ควรเตรียมอาหารสด เครื่องปรุง และอุปกรณ์การทำอาหารให้พร้อมก่อนติดไฟไม่ควรติดไฟรอนานเกินไปจะสิ้นเปลืองก๊าซ

1.6  การทาสีผนังบ้านหรือเลือกวัสดุพื้นห้องควรเป็นสีอ่อนๆ  เพื่อช่วยสะท้อนแสงสว่างภายในห้อง ควรใช้หลอดประหยัดพลังงานเช่น หลอดผอม  (หลอดฟลูออเรสเซนต์)

1.7  การรีดเสื้อผ้า ควรรีดจำนวนมากในครั้งเดียว

2.  ด้านสถานศึกษา

อาคารหรือสถานศึกษามีการใช้พลังงานหลายรูปแบบ เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง  อุปกรณ์สำนักงาน เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร คอมพิวเตอร์ เป็นต้น  หลักการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในสถานศึกษาสรุปได้ดังนี้

2.1  การปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มเงาแก่ตัวอาคารเรียนโดยไม่ให้อาคารถูกแสงแดดโดยตรงจะช่วยให้ตัวอาคารไม่ร้อนมีบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีปลูกหญ้าคลุมดินเพื่อลดการสะท้อนของแสงเข้าสู่ตัวอาคารเรียน

2.2  ผนังภายในห้องเรียนควรเป็นสีขาว เพราะจะสามารถช่วยให้ห้องเรียนมีความสว่าง

2.3  เลือกหลอดไฟที่มีวัตต์ต่ำพัดลมติดเพดานซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องเรียน

2.4  มีการรณรงค์หรือจัดกิจกรรมด้านการอนุรักษ์พลังงานในสถานศึกษา

3.  ด้านสถานที่ทำงาน  มีวิธีการประหยัดพลังงานดังนี้

3.1  การป้องกันความร้อนเข้าสู่อาคารโดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดีหรือใช้กระจกหน้าต่างชนิดป้องกันรังสีความร้อนการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงากับผนัง และการทำ

กันสาด  เป็นต้น

3.2  ใช้สีอ่อนในการทาผนังอาคาร

3.3  เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5

3.4  ติดตั้งสวิตซ์ไฟให้สะดวกในการเปิดปิด

3.5  การลดชั่วโมงการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าการปิดเครื่องทำน้ำเย็นก่อนเวลาเลิกงาน 15-30 นาที

3.6  เครื่องปรับอากาศ ควรตั้งอุณหภูมิที่ 25oบริเวณที่ทำงานทั่วไปและพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งอุณหภูมิที่ 24oในบริเวณพื้นที่ทำงานใกล้หน้าต่างกระจกและตั้งอุณหภูมิที่ 22oในห้องคอมพิวเตอร์ซึ่งการปรับอุณหภูมิเพิ่มทุกๆ 1oจะช่วยประหยัดพลังงานร้อยละ 10 ของเครื่องปรับอากาศ

3.7  ควรใช้บันไดกรณีขึ้นลงชั้นเดียว  การตั้งโปรแกรมให้ลิฟต์หยุดเฉพาะชั้นคี่ หรือ

ชั้นคู่  เนื่องจากลิฟต์ใช้พลังงานไฟฟ้ามากในขณะออกตัว

3.8  ควรบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอโดยการตรวจสอบสภาพอุปกรณ์การทำความสะอาดและตรวจสอบรอยรั่วตามขอบกระจกและผนังทุก 3-6 เดือน

4.  ด้านการขนส่ง  มาตรการบางประการในการอนุรักษ์พลังงานที่ใช้ในด้านการขนส่งได้แก่

4.1  การใช้รถร่วมกันในเส้นทางเดียวกัน สลับกันนำรถออกใช้งานแล้วโดยสารไปด้วยกัน

4.2  ร่วมกันรณรงค์ให้ขับรถยนต์ส่วนตัวน้อยลงหันมาปั่นจักรยาน การใช้รถโดยสารประจำทาง

4.3  ใช้พลังงานทดแทน เช่นไบโอดีเซล แก๊สโซฮอลล์ เป็นต้น  แทนการใช้น้ำมันปิโตรเลียม

4.4  จัดกิจกรรมรณรงค์เรื่องวิธีประหยัดพลังงานในการขนส่งให้กับบริษัท หรือโรงงานอุตสาหกรรม สนับสนุนการวิจัยในองค์กร ค้นคว้าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีประสิทธิภาพในการลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

4.5  สนับสนุนการขนส่งสินค้าของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานหมุนเวียน

4.6  ปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจัดระบบการขนส่งมวลชนภายในเมืองหรือระหว่างเมืองใหญ่กับเมืองบริวารอย่างมีประสิทธิภาพ

4.7  ตรวจสอบอุปกรณ์สภาพเครื่องยนต์เป็นประจำเพื่อเป็นการลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน

 

การพิจารณาเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า

ประหยัดพลังงานไฟฟ้าเราต้องพิจารณา

1. อุปกรณ์ไฟฟ้าอะไรบ้างที่เราใช้งานประจำหรือใช้งานบ่อยและนานโดยพิจารณาจากพลังงานไฟฟ้า (Watt) เป็นสำคัญเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟฟ้ามากเสียค่าใช้จ่ายมากนอกจากเราจะพิจารณาเรื่องการใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วเราต้องพิจารณาเรื่องการประหยัดพลังงาน

2. การดูแลบำรุงรักษาเพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดต้องการการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีจึงจะทำให้เกิดการประหยัดสูงสุด

 

สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราจะต้องพิจารณาในเรื่องการประหยัดพลังงาน